วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้ สร้างสมองเด็กให้ฉลาดได้อย่างไร (ฉบับพ่อแม่) บทที่ 6


บทสรุป


เป็นที่ตระหนักกันดีว่า โลกปัจจุบันในศตวรรษใหม่ที่จะมาถึงมีการเปลี่ยนแปลง อย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับโลกในศตวรรษก่อนๆ ครอบครัวและเด็กๆ จะต้องเผชิญกับโลกยุคใหม่ ต้องปรับตัวและพัฒนาตนให้มีความสามารถ มีความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างมากมาย (เสื้อผ้าเด็กขายส่ง macaroonies)

การปรับตัวในที่นี้ หมายถึง การเสริมสร้างศักยภาพของสมองให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาสมองให้มีคุณภาพ มีความสามารถเต็มที่ ซึ่งพ่อแม่จะมีบทบาทสำ คัญอย่างมากในการส่งเสริมศักยภาพสมองของลูก

การเสริมสร้างศักยภาพของสมองลูกให้มีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยที่ต้องเอื้ออำ นวยซึ่งกันและกัน นั่นคือ ปัจจัยภายในหรือกรรมพันธุ์ ที่เป็นตัวกำ หนดขั้นตอนการเจริญเติบโตของสมองโครงสร้างของสมอง และการทำ งานของสมองลูกตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์ กับปัจจัยภายนอกหรือสิ่งแวดล้อมและวิธีการเลี้ยงดูของครอบครัว ที่มีผลต่อการพัฒนาสมองลูกตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์จนกระทั่งหลังคลอดและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้ง 2 ปัจจัยที่กล่าวมา เป็นสิ่งสำ คัญที่สุดในการพัฒนาสมองลูกให้เติบโตเป็นคนดี คนฉลาด รอบรู้ สามารถแก้ไขเหตุการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดำ เนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

เปรียบเสมือนว่าคนเราเกิดมาในโลกนี้เหมือนกับต้นไม้ที่มีเมล็ดพันธุ์อยู่แล้ว แต่จะต้องอาศัยการรดนํ้า ใส่ปุ๋ย เพื่อจะทำ ให้เมล็ดพืชเติบโตขึ้นมาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงสมบูรณ์ เช่นเดียวกันสมองของเราที่ธรรมชาติให้มาเป็นห้องว่างๆ ที่ยังไม่ได้ตกแต่ง ต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมทำ ให้สมองเป็นห้องที่สมบูรณ์ เป็นสมองที่ฉลาดมีความสามารถมากที่สุด จึงกล่าวได้ว่าไม่มีความสามารถหรือความฉลาดใดที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยปราศจากสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

ปัจจุบันมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับยีนหรือหน่วยพันธุกรรมที่เป็นตัวกำ หนดการเจริญเติบโตและโครงสร้างของสมอง คนเรามียีนประมาณ 1 แสนยีน และครึ่งหนึ่งของยีนหรือยีน 5 หมื่นยีน เป็นยีนที่ทำ หน้าที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและการทำ งานของสมอง

นักวิทยาศาสตร์พบว่ามียีนที่กำ หนดคุณลักษณะของเซลล์สมองว่าจะเป็นชนิดใด มียีนที่กำ หนดเส้นทางการเดินของเซลล์สมองซึ่งจะเดินทางจากส่วนกลางของสมองไปยังพื้นผิวของสมอง และยังมียีนที่กำ หนดให้เครือข่ายเส้นใยสมองพัฒนาไปในทิศทางที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ยังมียีนที่เกี่ยวกับความจำ และการเรียนรู้ และยีนที่ทำ ให้เกิดความสุข ซึ่งคนที่มีความผิดปกติของยีนตัวนี้จะเป็นคนที่มีพฤติกรรมซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม เช่น ติดบุหรี่ ติดเหล้า ติดการพนัน หรือติดยาเสพย์ติด

ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลมากมายมหาศาลเช่นเดียวกันเกี่ยวกับปัจจัยของสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของสมองและการเรียนรู้ สภาวะสุขภาพร่างกายและจิตใจของแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ก็มีผลต่อสมองลูกในครรภ์ด้วย

สงิ่ แวดลอ้ มในชว่ งแรกเรมิ่ ของชวี ติ ลกู เปน็ สงิ่ ทสี่ าํ คัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะสามารถสร้างสรรค์ให้ลูกเป็นผู้ประสบความสำ เร็จ มีความสามารถพิเศษ เป็นผู้มีชื่อเสียงก้องโลก เป็นจิตรกร เป็นนายกรัฐมนตรีที่สามารถนำ ประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าได้ หรือในทางตรงข้าม อาจทำ ลายสมองลูก ทำให้เป็นผู้ที่มีแต่ความล้มเหลว ไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขก็ได้

เทคโนโลยีใหม่ๆในการตรวจการทำ งานของสมองได้ให้ข้อมูลและยืนยันว่า ประสบการณ์การเลี้ยงดูมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง การวิจัยในสัตว์ทดลองก็ยืนยันข้อมูลนี้เช่นกัน

สมองเด็กแรกคลอดจะมีเซลล์สมองอยู่ 1 แสนล้านเซลล์ แต่จะมีเครือข่ายเส้นใยสมองยื่นยาวออกจากเซลล์สมองที่เปรียบเสมือนแขนขาน้อยมาก สิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกมีการสร้างเครือข่ายเส้นใยสมองและจุดชื่อมต่อขึ้นมากมาย และจะกระตุ้นให้สร้างไขมันล้อมรอบเส้นใยสมองเหล่านี้ด้วย

การที่มีเส้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อและไขมันล้อมรอบเส้นใยสมองอย่างมากมายนี้ จะทำ ให้ลูกมีความฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ข้อมูลทางวิทยาการยังค้นพบอีกว่าประสบการณ์ที่ลูกได้รับซํ้าๆ ก็จะทำ ให้เครือข่ายเส้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อนี้อยู่คงที่ แต่ถ้าประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ลูกได้รับเพียงครั้งเดียวหรือไม่ได้รับเลยก็จะทำ ให้เครือข่ายเส้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อนี้สลายไป

สิ่งแวดล้อมหรือการเลี้ยงดูที่มีการสัมผัส มีความผูกพันใกล้ชิด มีความรัก ความอบอุ่น จะส่งเสริมพัฒนาการสมองลูก และในทางตรงข้ามการเลี้ยงดูที่ทำ ให้ลูกเกิดความเครียด ความกังวลหรือถูกทำร้าย ก็จะยับยั้งการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองลูก ทำ ให้ลูกไม่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้และเป็นบุคคลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากเพราะสมองลูกเกิดมาพร้อมที่จะเรียนรู้ พร้อมที่จะมีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะฉลาด แต่ขาดปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้น

สิ่งแวดล้อมยังมีส่วนช่วยให้ลูกเป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีจริยธรรม มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีทัศนคติที่ดีต่อตนเองและผู้อื่นอีกด้วย

สิ่งแวดล้อมในที่นี้หมายถึงการเลี้ยงดูจากครอบครัว คือ พ่อแม่ ที่เป็นบุคคลสำ คัญที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูก สร้างให้ลูกมี อีคิว หรือ ความสามารถในการพัฒนาอารมณ์ เพราะบุคคลที่จะประสบความสำ เร็จในชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาดทางวิชาการ หรือ ไอคิว เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีทักษะหรือความสามารถในการพัฒนาอารมณ์ หรือ อีคิว ด้วย

คุณลักษณะของ อีคิว คือ การรู้ตัว การประมาณตัวอย่างถูกต้อง รู้สภาพหรือสภาวะที่แท้จริงของตัวเอง และต้องมีความสามารถที่จะควบคุมอารมณ์ได้ เป็นคนขยันหมั่นเพียร ไม่ล้มเลิกอะไรง่ายๆ ไม่จับจด มีความกระตือรือร้น อยากจะประสบความสำ เร็จ ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่คนที่ชอบแข่งขัน รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นคนคล่อง มีทักษะหลายๆ อย่างเป็นคนที่มีระเบียบวินัยกับตัวเอง

พ่อแม่ต้องคำ นึงถึงคุณภาพของผู้เลี้ยงดูลูกซึ่งอาจเป็นพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือพี่เลี้ยง หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก คำนึงถึงการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจของลูกให้สมบูรณ์แข็งแรง คำ นึงถึงการส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์และความฉลาดของลูก ยกตัวอย่างเช่นตอบสนองต่อความต้องการของลูกอย่างถูกต้อง อ่านหนังสือให้ลูกฟัง เล่นกับลูก มีการฝึกระเบียบวินัยให้ลูก เลือกรายการโทรทัศน์ให้ลูกดู และที่สำ คัญจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน

ขอบคุณบทความดีๆจาก จากรายงานการวิจัย เรื่อง "สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้สร้างสมองเด็กให้ฉลาดได้อย่างไร" โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 รศ.พ.ญ.ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์

โพสต์โดย W. Bond

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น