วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้ สร้างสมองเด็กให้ฉลาดได้อย่างไร (ฉบับพ่อแม่) บทที่ 1

บทที่ 1 บทนำ


โลกปัจจุบันในศตวรรษใหม่ที่กำ ลังมาถึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ครอบครัวและเด็กๆจะต้องเผชิญกับโลกยุคใหม่ ต้องปรับตัวและพัฒนาตนให้มีความสามารถ มีความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างมากมาย (เสื้อผ้าเด็กขายส่ง macaroonies) 

ฉะนั้นการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ยุคปัจจุบันจึงต้องอาศัยข้อมูลความรู้สมัยใหม่มาช่วยให้มีความรู้ความเข้าใจที่จะส่งเสริมศักยภาพในตัวลูกให้พัฒนาจนเติบโตเป็นคนที่มีความสามารถ มีคุณภาพทั้งทางด้านสติปัญญา ความรู้สึกนึกคิด และมีพฤติกรรมที่ดีงาม สมดังที่พ่อแม่ทั่วๆไปคาดหวังว่าอยากให้ลูกเติบโตเป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข และประสบความสำ เร็จในชีวิต

แต่เดิมพ่อแม่มักเชื่อกันว่าการที่ลูกจะเติบโตเป็นคนดี คนเก่ง มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับบุญกรรมที่พ่อแม่ทำ ไว้หรือที่ลูกสะสมมาแต่ชาติปางก่อน หรือไม่ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ พ่อแม่ฉลาดลูกจึงฉลาดด้วย เหล่านี้เป็นความเชื่อที่ทำ ให้พ่อแม่ขาดความใส่ใจที่จะพัฒนา ส่งเสริมลูก และบางครั้งยังอาจทำ ลายหรือทำ ร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว

ปัจจุบันมีวิทยาการสมัยใหม่และผลงานการวิจัยต่างๆ โดยเฉพาะการวิจัยเกี่ยวกับสมองของมนุษย์ ทำ ให้เรารู้ว่าเด็กทุกคนล้วนมีศักยภาพอยู่ในตัวตั้งแต่เกิด ดังนั้นถ้าเด็กทุกคนได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้รับการกระตุ้น ส่งเสริมการพัฒนาสมองและการเรียนรู้อย่างเหมาะสม จะทำให้เด็กยุคใหม่เติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาส่งเสริมเด็ก ไม่มีใครสำคัญเกินกว่าพ่อแม่และครอบครัว

มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ ชี้ว่า สิ่งสำ คัญที่สุดที่เตรียมเด็กให้เติบโตเป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข และประสบความสำ เร็จในชีวิตได้ คือ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปีแรกๆ ของชีวิตเด็กโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรก เด็กเรียนรู้ตั้งแต่นาทีแรกที่คลอดออกมา เพราะฉะนั้นสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเด็กมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านสติปัญญา ความฉลาดพัฒนาการทางอารมณ์และอื่นๆ

สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวเด็กมากที่สุดก็คือพ่อแม่นั่นเอง พ่อแม่จึงเป็นบุคคลสำ คัญที่จะช่วยพัฒนาสมองเด็กและพัฒนาการด้านอื่นๆ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก อย่างเช่น การสัมผัสโอบกอดการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง เป็นต้น เป็นสิ่งสำ คัญมากที่สามารถช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กไปพร้อมๆ กัน เพราะในขณะที่พ่อแม่โอบกอดลูกไว้ และอ่านนิทานเรื่องโปรดให้ลูกฟัง นอกจากลูกจะได้ใช้สมองจินตนาการเรื่องราวที่ได้ฟงั แลว้ ยังเกิดความรสู้ กึ อบอนุ่ ผูกพนั กับพอ่ แม่ด้วย

ความจริงพ่อแม่ควรเข้าใจว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะมีการศึกษาระดับใด จะมีความสามารถในการอ่านมากน้อยอย่างไร การได้อุ้มลูก พยายามอ่านหนังสือให้ลูกฟังแม้จะอ่านผิดอ่านถูก ก็ยังเป็นการกระตุ้นสมองและส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ของลูกทั้งสิ้น รวมทั้งการพูดคุยกับลูกก็ให้ผลเช่นเดียวกันการกระทำ เช่นนี้จะเป็นพลังมหาศาลที่จะช่วยให้ลูกรักการอ่าน รักการเรียนรู้ ทำ ให้ลูกสนใจภาษา คำศัพท์ และเกิดความคิด จินตนาการ

ที่สำคัญที่สุดคือ ลูกได้รู้ว่าพ่อแม่เห็นความสำคัญของลูก ได้รับความอบอุ่นจากการกอด การสัมผัส และเกิดความผูกพัน ความมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำ ให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตในภายภาคหน้า

จึงเปน็ เรื่องนา่ เสยี ดายถา้ พอ่ แมไ่ มท่ ราบขอ้ มูลเหลา่ นี้และไมไ่ ดใ้ ชเ้ วลาคณุ ภาพกบั ลูก แม้แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็พบว่ามีพ่อแม่ชาวอเมริกันเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง หรือพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่เคยคุยกับลูกเพราะคิดว่าลูกยังเล็ก ยังไม่รู้ภาษา ยังไม่เข้าใจอะไร ซึ่งเท่ากับเสียโอกาสทองที่จะพัฒนาสมองลูกให้เจริญเติบโตเต็มศักยภาพนอกจากนี้มีข้อมูลที่บอกว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต ก็จะทำ ให้พ่อแม่ยังต้องส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง การเรียนรู้ และทักษะอื่นๆของลูกต่อไปอีกหลังจากที่ได้ทำ มาในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต

เหน็ ไดว้ า่ ความรแู้ ละวิทยาการใหมๆ่ ทางดา้ นการพัฒนาสมองและการเรียนรู้ที่กล่าวข้างต้น จะเป็นประโยชน์สำ หรับพ่อแม่ คนที่กำ ลังจะเป็นพ่อแม่และบุคคลในครอบครัว ที่จะนำ ไปใช้ในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการพัฒนาสมองลูก และสร้างเสริมศักยภาพของลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

บทความและข้อมูลต่อไปนี้เป็นการนำ เสนอความสำ คัญของการพัฒนาสมองลูกน้อยและแนวทางการเลี้ยงดูเพื่อให้ลูกเติบโตเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข ที่สรุปสาระจากงานวิจัยเรื่องสิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้สร้างสมองเด็กให้ฉลาดได้อย่างไร ของสำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ โดยมุ่งหวังที่จะเผยแพร่ข้อมูลความรู้ไปสู่พ่อแม่ให้มากที่สุด และรณรงค์ให้พ่อแม่รู้จักส่งเสริมพัฒนาการสมองลูกอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ที่จะสามารถสร้างสรรค์ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ

ขอบคุณบทความดีๆจาก จากรายงานการวิจัย เรื่อง "สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้สร้างสมองเด็กให้ฉลาดได้อย่างไร" โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 รศ.พ.ญ.ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์

โพสต์โดย W. Bond


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น